การใช้แฟคเตอร์มีปัญหา ทีมสหสาขาช่วยได้ ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ วัตถุประสงค์ ลดปัญหาการใช้แฟคเตอร์ไม่เหมาะสม
ปัญหาและสาเหตุโดยย่อ :
แฟคเตอร์ 8 เข้มข้น
ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย ผู้ป่วยโรคนี้มีลักษณะเฉพาะ คือ มีโอกาสที่จะเกิดเลือดออกได้บ่อย
ทั้งจากสภาวะโรคและอุบัติเหตุ
แต่ภาวะเลือดออกสามารถป้องกันและลดความรุนแรงได้ด้วยการฉีดแฟคเตอร์ 8 เข้มข้น แฟคเตอร์ดังกล่าวมีราคาแพง
การผสมและการฉีดต้องใช้เทคนิคเฉพาะ
โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์เริ่มมีการสั่งใช้แฟคเตอร์ ๘ ตั้งแต่มีการจัดตั้งคลินิกฮีโมฟีเลียในปีงบประมาณ 2554 ซึ่งปริมาณการใช้แฟคเตอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
เนื่องจากเป็นคลินิกแห่งเดียวใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้บริการผู้ป่วยในจังหวัดใกล้เคียงด้วย
โดยใน 2 ปีแรก ที่จัดตั้งคลินิก เภสัชกรมีบทบาทหน้าที่เพียงจัดหาแฟคเตอร์ให้เพียงพอเท่านั้น
ในปีงบประมาณ 2556 เภสัชกรได้เข้าร่วมดูแลผู้ป่วยด้านคลินิก มีผู้ป่วยจำนวน
17 ราย พบปัญหาการใช้แฟคเตอร์ไม่เหมาะสม
ทั้งหมด 28 ครั้ง ปัญหาการใช้แฟคเตอร์ปริมาณสูง ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากผู้ป่วย ได้แก่ แฟคเตอร์เสื่อมสภาพจากที่ผู้ป่วยเก็บรักษาไม่ถูกต้อง
หรือผู้ป่วยได้รับแฟคเตอร์ช้า เนื่องจากไม่สามารถฉีดแฟคเตอร์ได้ด้วยตนเอง
ทำให้ต้องใช้แฟคเตอร์ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น สาเหตุอันดับสอง เกิดจากบุคลากร ได้แก่
พยาบาลผสมแฟคเตอร์ 8 เข้มข้นผิดเทคนิค สาเหตุอันดับสาม
เกิดจากระบบ ได้แก่ สั่งใช้แฟคเตอร์ 8 เข้มข้น แทนยา Transamine
oral solution และปัญหาตัวแฟคเตอร์
เนื่องจากแฟคเตอร์ไวต่ออุณหภูมิที่สูง ถ้ามีการใช้แฟคเตอร์ ๘ อย่างเหมาะสม
จะลดปริมาณการใช้ยาและช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคดีขึ้น
เภสัชกรเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียตั้งแต่ปี
2556 ทำให้พบปัญหาการใช้แฟคเตอร์๘ เข้มข้นไม่เหมาะสม ทั้งหมด 28 ครั้ง มีแฟคเตอร์เสื่อมสภาพคิดเป็นมูลค่า 50,175
บาท หลังจากวิเคราะห์ปัญหา พบว่าสาเหตุหลักเกิดจากผู้ป่วยและบุคลากร
ขาดความรู้ และสาเหตุรองเกิดจากระบบ คือไม่มียา Transamine oral solution ในกรณีที่มีภาวะเลือดออกในช่องปาก เนื่องจากยาดังกล่าวไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้ต้องใช้แฟคเตอร์ 8 เข้มข้นแทน เมื่อให้ความรู้เรื่องการดูแลปฏิบัติตัวเมื่อมีภาวะเลือดออกแก่ผู้ป่วยและบุคลากร
รวมทั้งจัดเตรียมยา Transamine
oral solution แก่ผู้ป่วยเฉพาะราย และเปลี่ยนใช้แฟคเตอร์ 8
เข้มข้นที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูง พบว่าปัญหาการใช้แฟคเตอร์ไม่เหมาะสม และมูลค่าแฟคเตอร์เสื่อมสภาพ
มีแนวโน้มลดลง
เหตุรองเกิดจากระบบ คือไม่มียา Transamine oral solution ในกรณีที่มีภาวะเลือดออกในช่องปาก เนื่องจากยาดังกล่าวไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้ต้องใช้แฟคเตอร์ 8 เข้มข้นแทน เมื่อให้ความรู้เรื่องการดูแลปฏิบัติตัวเมื่อมีภาวะเลือดออกแก่ผู้ป่วยและบุคลากร
รวมทั้งจัดเตรียมยา Transamine
oral solution แก่ผู้ป่วยเฉพาะราย และเปลี่ยนใช้แฟคเตอร์ 8
เข้มข้นที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูง พบว่าปัญหาการใช้แฟคเตอร์ไม่เหมาะสม และมูลค่าแฟคเตอร์เสื่อมสภาพ
มีแนวโน้มลดลง
วัดผลโดยใช้การนับจำนวนปัญหาที่พบ ในปีงบประมาณ 2557 - 2558เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2556
รายละเอียด
|
เป้าหมาย ( ร้อยละ )
|
ก่อนการดำเนินการ
ปีงบ 2556
(ผู้ป่วย 17 ราย)
|
หลังการดำเนินการ
ปีงบ 2557
(ผู้ป่วย 20 ราย)
|
หลังการดำเนินการ
ปีงบ 2558
(ผู้ป่วย 22 ราย)
|
1.อัตราการเกิดปัญหาแฟคเตอร์ 8 (DRPs)
|
ลดลง
≥50
|
100%
(28
ครั้ง)
|
43%
(ลดลง
47%)
(12 ครั้ง)
|
21%
(ลดลง
79%)
(6
ครั้ง)
|
2.มูลค่าแฟคเตอร์ 8เสื่อมสภาพ (บาท)
|
ลดลง
≥50
|
50,175 (100%)
|
20,070 ลดลง 60%
|
13,380 ลดลง 73%
|
ก่อนการดำเนินการ
ปัญหาที่พบจากการใช้แฟคเตอร์ไม่เหมาะสม
แบ่งเป็น 2 สาเหตุหลัก คือ มีการใช้แฟคเตอร์ในปริมาณที่สูง
เนื่องจากแฟคเตอร์เสื่อมสภาพ เพราะผู้ป่วยขาดความรู้ในการเก็บรักษา
ไม่ทราบวิธีดูวันหมดอายุ
และผู้ป่วยขาดความรู้ในการดูแลตนเองเมื่อมีภาวะเลือดออก
ซึ่งการดูแลตัวเองที่ถูกวิธี
ทำให้อาการทางคลินิกดีขึ้น ส่งผลให้ลดปริมาณการใช้แฟคเตอร์ได้ และเกิดจากผู้ป่วยได้แฟคเตอร์ช้า
เนื่องจากไม่สามารถฉีดยาด้วยตนเอง เมื่อผู้ป่วยมีภาวะเลือดออก
ต้องเดินทางไปสถานพยาบาลใกล้บ้าน
เมื่อได้รับแฟคเตอร์ช้า ทำให้ต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้น โดยมีผู้ป่วยที่สามารถฉีดยาด้วยตนเองเพียง
2 รายจาก 17 ราย (ร้อยละ 10)
นอกจากนี้ยังเกิดจากการที่ไม่มี Transamine
oral solution เพื่อรักษาภาวะเลือดออกในช่องปาก จึงต้องฉีดแฟคเตอร์ 8 เข้มข้นแทน อีกหนึ่งสาเหตุ คือ บุคลากรขาดความรู้ความชำนาญ
ทำให้ผสมแฟคเตอร์ผิดเทคนิค หลังจากแก้ไขในปีงบประมาณ 2557-2558 ปัญหาที่ยังพบ คือ พยาบาลที่ปฏิบัติงานที่
รพ.สต.และ รพช. ผสมและฉีดแฟคเตอร์ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ และบริษัทเปลี่ยนแปลงรูปแบบผลิตภัณฑ์
พบแฟคเตอร์เสื่อมสภาพที่บ้านผู้ป่วย
เนื่องจากไฟฟ้าดับบ่อย และผู้ป่วยไม่นำแฟคเตอร์ที่มีการสำรองไว้ที่บ้าน
มาสถานพยาบาลเมื่อมีอาการ จึงไม่มีการหมุนเวียน
และปี 2558 มีผู้ป่วยที่ฉีดยาด้วยตัวเองเพียง
๗ ราย จากทั้งหมด 22 ราย (ร้อยละ 30)
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องไปใช้บริการสถานบริการใกล้บ้าน
บทเรียนที่ได้รับ
1.การลดการใช้แฟคเตอร์๘ในผู้ป่วยมีภาวะเลือดออกตามไรฟัน
โดยเปลี่ยนมาใช้Transamine
oral solution จากยา Transamine capsule
นอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากแฟคเตอร์ 8 เข้มข้น 1 เข็ม เท่ากับ 3,345 บาท ;Transamine oral solution ไม่ถึง 100 บาท ยังช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ป่วย เนื่องจากไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล
2.การทำงานคุณภาพนอกจากประเด็นด้านคลินิกยังมีประเด็นเรื่องงบประมาณที่ต้องคำนึง
เมื่อเภสัชกรมาร่วมทำงานกับทีมช่วยทำให้การเบิกเงินสนับสนุนจาก สปสช.
ได้ครบถ้วนมากขึ้น
3.การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน
โดยการจัดตั้งไลน์กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยฮีโมฟีเลียใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้
ทำให้การส่งต่อข้อมูลและการจัดการปัญหาง่ายขึ้น
4.วางแผนจัดทำฉลากยาเป็นภาษามลายูให้แก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถอ่านภาษาไทย
การติดต่อกับทีมงาน:พญ.อมรา ดือเระ /ภญ.นิพารีด๊ะห์ หริรัตนกุล/นางจารุณี จันทสุวรรณ
/ภก.นพดล พลานุกูลวงศ์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โทร ๐๗๓-๕๑๐๔๓๐
/ภก.นพดล พลานุกูลวงศ์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โทร ๐๗๓-๕๑๐๔๓๐